02 พฤศจิกายน, 2552

ไม่คุยแล้วรู้สึกเหงา

อัสลามมุอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ..ทุกท่าน

สำหรับวันนี้เปิดอีเมลเจอหัวข้อนึง "คำถาม-ตอบ (ปลีกย่อยสะกิตต่อม)‏" อ่านแล้วก็มาชาอัลลอฮฺน่ะค่ะ สะกิดต่อมจริงๆ งั้นจะช้าไปใยมาอ่านกันเลยน่ะค่ะ....



คำถาม..ถ้าเรามีความรู้สึกดีๆ กับใครคนนึงอยู่ (ในที่นี้ก็คือประทับใจผู้ชายที่ทำงานเดียวกันแต่ ที่ทำงานอยู่คนละตึกกัน เค้าเป็นคนขยันมาก มีความคิดและอุดมการณ์ทำงานอิสลามเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกผิดเพราะช่วงกลางคืนเราติดต่อกันด้วยการแชต อาจจะเป็นเพราะว่าลึกๆในใจ แล้วก็คิดถึงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะคุยเรื่องไร้สาระ เราจะคุยแลกเปลี่ยนเรื่องงานมากกว่า อาจจะด้วยเป็นนักทำงานเหมือนกันจึงกลายเป็นว่าไม่คุยด้วย จะรู้สึกเหงา

คิดว่าไง ถ้าจะคุยและสานต่อแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันจะบาปเยอะมั๊ย (รู้แหละ...ว่าบาป)แต่ ก็อยากรู้ความกระจ่างอีกนิดส์นึง แล้วขอบเขตการคุยกันควรจะอยู่ในรู้แบบใด ช่วยตอบด้วยน่ะ ยาซากัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีงามของท่านและครอบครัว ขอให้ท่านโชคดีทั้งโลกนี้และโลกหน้า




คำตอบ..เข้าใจและรับทราบว่า ความรู้สึกของคุณที่มีอยู่กับชายคนดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไร หากจะพูดตรงๆก็แน่นอน มีความรู้สึกดีๆๆกับเค้าแล้วหล่ะ ไม่ใช่ความรู้สึกรักนะ แต่เป็นความรู้สึกปลื้มแบบไม่มีเหตุผล คือ เหตุผลที่ศาสนารองรับไว้(ในการพิจารณาชายหรือหญิงตามมาตรฐานอิสลามที่ได้กำหนดไว้แล้ว) เพราะความรักที่แท้จริง คือ ความรักภายหลังจากการแต่งงานเท่านั้น อัลลอฮ(ซ.บ)ทรงรับรองไว้แล้ว

ดั่งที่พระองค์ทรงตรัสไว้ ซึ่งมีใจความว่า "และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์คือ ทรงสร้างคู่ครองให้แก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความสุขอยู่กับนาง และ ทรงมีความรักใคร่ และความเมตตาระหว่างพวกเจ้า แท้จริงในการนี้ แน่นอน ย่อมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ"[30:21]

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คือความรู้สึกเพียงนั้น ซึ่งแน่นอน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นย่อมเป็นความรู้สึกที่ไม่มั่นคงถาวร หากมีอะไรที่ทำให้ความรู้สึกนั้น เปลี่ยนไป หรือมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ความรู้สึกนั้นหมดไป เช่น มีคนที่ดีกว่าเข้าหาเรา หรือมีอะไรบางอย่างที่เค้าทำแล้ว เรารับไม่ได้ แน่นอนความรู้สึกเหล่านี่ก็จะหมดไป...อินชาอัลลอฮ

ที่นี้ ในเรื่องของฮูก่มของหลักการศาสนาที่ชายและหญิงนั้น ต้องระมัดระวังในสิ่งข้างต้นนี้ ซึ่งอัลลอฮ(ซ.บ)ทรงตรัสไว้ ซึ่งมีใจความว่า"และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า""[17:32]

อายะฮข้างต้นนี้ นักวิชาการตัฟซีรได้อธิบายไว้ว่า สื่อใดหรือการกระทำใดก็ตามที่ทำให้คนหนึ่งคนใด อาจจะนำไปสู่การกระทำความผิดในลำดับความผิดต่อไป สิ่งๆนั้น ย่อมมิอาจเข้าใกล้เป็นอันขาด ต้องหลีกเลี่ยงให้พ้น ซึ่งหากเข้าใกล้ย่อมเป็นผู้ที่ฝ่าฝืนแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้ ย่อมนำมาซึ่งความผิดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

เนื่องจากว่า การคุยเอ็มกับเพศตรงข้ามหรือการคุยโทรศัพท์ก็ตาม โดยหาเป็นเหตุสำคัญแล้ว หรือเป็นเหตุจำเป็นหรือเป็นเรื่องงานก็ตาม แต่หากความจำเป็นหรือเรื่องงานนั้นๆๆ ทำให้การคุยนั้นทำให้เรานั้นมีความรู้สึกที่มากไปกว่าอารมณ์ความรู้สึกของความเป็นพี่น้องมุสลิมทั่วๆไป หรือรู้สึกไปในทางที่หนุ่มสาวเค้ารู้สึก กัน แบบมีใจให้แก่กัน หรือรู้สึกดีมากเป็นพิเศษ หรือเป็นการปลาบปลื้มมากเกินไป หรืออื่นๆๆทำนองนี้ ย่อมเป็นที่ฮารอมแล้วสำหรับเค้า

ซึ่งการคุยแชทกับเพศตรงข้าม โดยหาเหตุจำเป็นไม่ได้แล้วนั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้เป็นบาปแล้ว ยิ่งเป็นมุสลีมะหฺแล้วล่ะก็ ยิ่งทำให้เกียรติของเรานั้นลดน้อยถอยลงไป ที่สำคัญ การมองข้ามความผิดข้างต้นนี้ย่อมนำมาซึ่งความรู้สึกอย่างใด อย่างหนึ่งขึ้นเรื่อยๆ เช่น ความรู้สึกที่อยากจะคุยกันนานๆ อยากฟังเสียง อยากเห็นหน้ากัน สุดท้ายก็นัดกันไปต่อไหน และนำมาซึ่งการผิดประเวณีในที่สุด ดั่งที่สังคมมมุสลิมเราเป็นอยู่ทุกวันนี้

เราอาจจะคิดว่า เราควบคุมได้น๊า ไม่เป็นอะไรหรอก เล็กน้อยเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก ตรงนี้แหละคือสิ่งที่เรานั้น มักจะมองข้ามไป กับการที่เราแค่ คุยกันเรื่องงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ต่อไปซิ ก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยว ต่อมาก็นำมาซึ่งเรื่องอื่นๆ หรือการให้เบอร์กัน การอยากเห็นหน้ากัน เจอกัน ประมาณนี้

ซึ่งอย่าลืมว่า สิ่งข้างต้นนี้ คือกระบวนการของซัยฎอนที่วางไว้เรียบร้อยแล้วให้เรานั้น คิดไปอย่างนั้นเอง มองข้ามไป ซึ่งหากเรายังตามสิ่งที่อารมณ์นัฟซูของเราคิด และต้องการพูดคุยต่อไป แน่นอน เราเองก็ต้องหลงกลมันและนำมาซึ่งความผิดหลายๆอย่างๆๆ เป็นแน่ อินชาอัลลอฮ

ฉะนั้นแล้ว สิ่งสำคัญที่คุณ ควรพิจารณาและตระหนักนั้นก็คือ การกระทำความผิดที่เกิดขึ่น คือหนทางในการกระทำความผิดที่มากกว่าที่เป็นอยู่ และการกระทำความผิดของคนใดคนหนึ่ง แม้เป็นเพียงทีละเล็กทีละน้อย มันก็อาจจะถึงขั้นเป็นความผิดที่เป็นบาปใหญ่ และนำมาสู่การเป็นผู้ที่ห่างไกลจากสวนสวรรค์ได้นะ

อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่อยากให้คิดว่า เล็กน้อยน๊า ไม่เป็นไรหรอกน๊า แต่อยากให้คิดว่า นั่นคือสิ่งที่จะต้องถุกนำ ไปสอบสวน ที่สำคัญ เราไม่รู้ใช่ไหม ว่าวันนี้เราจะได้อยู่ถึงเย็นไหม เราไม่รู้ใช่ไหมว่าอามาลของเราเพียงพอแล้วหรือยังกับการกลับไปสู่พระองค์อัล ลอฮ แล้วอย่างนี้ เราละไว้ซึ่งการพิจารณาถึงการกระทำอะไรบางอย่างอีกหรือ เราจะมองข้ามความผิดเล็กความผิดน้อยอีกหรือ

ผ่านไปให้ได้เถิดนะ กับบททดสอบอันเล็กน้อยนี้ หรือเราต้องเรียนรู้โทษที่จะได้รับในหลุมฝังศพก่อนใช่ไหม ถึงเราจะเกรงกลัวและละทิ้งสิ่งที่ เป็นความผิดนี้ หรือเราต้องรู้ก่อนแล้วจะเลิก หรือเราต้องถลำสู่ความผิดอันที่จะเป็นความผิดที่บาปใหญ่ก่อนหรือ แล้วเราจะเลิกคุย และเลิกสนทนากับเพศตรงข้ามกัน

พิจารณานิดนึงนะ อดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อเกียรติของตัวเอง คุณค่าของตัวเองและเพื่อการกลับไปสู่พระองค์อย่างผู้ศรัทธา
อย่าตาย จนกว่าจะเป็นมุสลิมผู้ศรัทธานะ

เหงามากใช่ไหม ที่ไม่ได้คุยกัน เบื่อมากใช่ไหมเพื่อไม่ได้คุยกัน งั้นก็หาอะไรที่เป็นศาสนามาอ่านซิ มาฟังซิ อย่าเบื่อกับการอ่าน อย่าเบื่อกับฟังสิ่งที่ศาสนาสั่งห้าม สั่งใช้เลย

พิจาณานะ.....วันนี้เพราะอะไรหรือ เราถึงเบื่อเหงาง่าย เพราะอะไรหรือเราถึงมีความรู้สึกแบบนี้ หรือเพราะเรามัวแต่ให้นิยาย ละคร เพลงเหล่านั้น มันทำให้เรานั้นเคลิ้มตามแล้วซึบซับด้วยบทความรู้สึกต่างๆ มันถึงทำให้เราเป็นอย่างนั้นได้หรือเปล่า...เป็นอย่างนี้กันไหม

มันไม่คุ้มกันหรอกนะ หากเราจะเป็นฝ่ายที่ให้ความรู้สึก ให้ความรัก ความคิดถึง กับคนที่ไม่ใช่มะหรอม ของเรา กับคนที่ยังไม่ใช่ที่สุด ตามที่อัลลอฮและรอซุลสั่งใช้ให้แต่งงาน นิกะห์และนำพาเราไปสู่สวนสวรรค์ เราอาจจะคิดว่า เค้าคือคนที่เรารูสึกดีให้ แต่เค้าหล่ะ รู้สึกอย่างนั้นกับเราไหม เค้ามองเห็นถึงความมีเกียรติของเรา อันที่จะไม่ทำให้เรานั้น อีหม่านอ่อน ไม่ทำให้เรานั้นลดเกียรติลง และจะไม่แทะโลมเราไหม ลองคิดดูนะ

เค้าคือคนที่ใช่ คือคนที่มีความรู้ และมีความตักวาอยู่ไหม หากใช่ ก็บอกวะลีย์แล้วเสนอตัวซิ ยินดีและดีใจด้วย แต่หากเค้ายังไม่ใช่จริง ไม่ดีจริง ก็จงถอยห่างกันเถิดนะ ก่อนที่จะอะไร มันจะเกิดขึ้นที่ไม่ดีมากกว่านี้ เสียเวลาและเสียอีหม่านไปเปล่าๆๆนะรู้ไหม

รู้นะว่าทำนะยาก แต่ให้รู้ไว้เถิดนะว่า ใครที่ยำเกรงต่ออัลลอฮ อัลลอฮทรงให้ทางออก อัลลอฮทดสอบเพียงน้อยนิด เราจะหวั่นและไปผ่านแล้วหรือ แล้วเราจะคว้าสวรรค์ของอัลลอฮได้อย่างไรกัน ขอดุอาร์เยอะๆๆซิ ให้ผ่านไปพ้นไปให้ได้

ฝากไว้พิจารณา คนที่คิดว่าใช่สำหรับคุณด้วยนะ อย่าเอาอารมณ์มาพิจาณาว่า เค้าคือคนที่ใช่แล้ว แต่จงนำอิสลามมาวัดกันนะ แล้วคุณจะไม่เสียใจภายหลัง

ลองพิจารณากันเถิดนะ...

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า" 4 ประการ ที่ผู้หญิงจะถูกเลือกให้แต่งงาน คือ ทรัพย์สินของนาง วงศ์ตระกูลของนาง ความสวยของนาง และศาสนาของนาง จงเลือกแต่งงานกับหญิงที่มีศาสนา ท่านจะเป็นผู้โชคดี หรืออีกสำนวนหนึ่ง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า ท่านจะไม่คลุกฝุ่น(บันทึกโดยบุคอรี) หะดิษข้างต้นนี้ หมายรวมถึงการที่หญิงพิจารณาเลือกชายด้วย..

ค่ะ..อืม..ก็อัลฮัมดูลิลลาฮฺน่ะค่ะ สะกิดต่อมไปเต็มๆเลย อย่างที่อ่านมาข้างต้นล่ะค่ะ ซินาเป็นเรื่องภัยใกล้ตัว พยายามหลีกเลี่ยงเป็นดีที่สุด มันอาจจะพูดง่ายน่ะค่ะ แต่มันก็คงจะทำไม่ยากหรอกหากเรามีความตั้งใจ ดุอาห์เยอาะๆ เซฟหัวใจ บล๊อกฟิตนะห์.. เกิดเป็นมุสลีมีนทั้งที ฮึด ฮึด ทำได้แน่นอนค่ะ....วัสลามมุอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

26 ตุลาคม, 2552

ทหารดมปิ่นโต

อัสลามมุอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ..ท่านผู้ติดตาม(ทุกการเคลื่อนไหว)ทุกท่าน

นานแรมปีที่เว็ปนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดใด ซึ่งส่งผลให้ผู้ติดตามอย่างท่าน(ที่กำลังอ่านตอนนี้)เกิดอาการปวดใจไม่น้อย
สำหรับดิฉันก็ขอมาอัฟและจะบอกว่า...ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับความผิดครั้งนี้...........จบรายงานข่าว.
อื้ม..ไหนๆ ก็มาแล้ว ทำงานเลยดีกว่าน่ะค่ะ สำหรับวันนี้มีบทความจากอีเมลของท่านอุคตีท่านนึงที่ส่งมา มาชาอัลลอฮฺ....เรื่องราวของท่านนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งสำหรับดิฉันเอง แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เกิดกับดิฉันโดยตรง แต่จากเรื่องที่ได้อ่านมา ก็ทำให้ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจไม่น้อย ด้วยความเหมือนในอะไรหลายๆ อย่าง....อืม เริ่มจะออกทะเลแล้ว เอาเป็นว่าไปอ่านเรื่องราวของอุคตีท่านนี้กันเลยน่ะค่ะ....มาชาอัลลอฮฺ

ทหารดมปิ่นโต

อยู่สามจังหวัด...ด้วยสภาพการแต่งกายเช่นนี้แล ทำให้คนรอบข้างระแวง หลายครั้งหลายคราที่โดนจับตามอง...หลายครั้งหลายคราโดนด่าจนหน้าชา หลายครั้งหลายคราถูกดูถูกจนเศร้าใจ
ครั้งที่ถูกทดสอบ ชายคนหนึ่งถามว่า... “น้อง...ทำไมต้องปิดหน้า”....คำถามที่ไม่ต่างจากคำด่า ฉันยิ้มตอบ...เขาจึงพูดกลับมา “วันหลังก็ขออธิษฐานให้ชาติหน้าเกิดมาไม่มีหน้า มีแต่ตา จะได้ไม่ต้องปิดหน้า”...ทำเอาหน้าชาจนขากระดิกไม่ได้ (ชายนิรนามอายุราวๆพ่อ ทำเอาฉันเจ็บปวดมาเนิ่นนาน)


ครั้งที่ถูกทดสอบ อาจารย์คุมสอบถาม... “นักศึกษา...อาจารย์ไม่รู้ว่าเธอคือใคร อาจารย์ต้องการเห็นหน้า” ฉันเอออ่อ ตอบกลับไปว่า “ให้อาจารย์ผู้หญิงมาดูได้มั้ยค่ะ...” แกไม่วายจะหยุดแค่นั้น “ทำไมหล่ะ...อาจารย์เป็นอาจารย์เธอน่ะ(แต่อาจารย์ไม่ได้สอนวิชานี้ซะหน่อย...ฉันตอบในใจ) อาจารย์ไม่ได้คิดไม่ดีกับเธอ ไม่ได้จะลวนลามเธอ.....(ยาวเป็นชุด ซึ่งฟังแล้วไม่มีอารมณ์ทำข้อสอบเลย)” ดีน่ะ...ที่ฉันใจเย็นขึ้นเยอะ ปล่อยให้แกพูดอยู่คนเดียวเลย ขณะที่ฉันกำลังจะเปิดหน้าให้แกดู ใจหวิวๆทำอะไรไม่ถูก(เพื่อนโต๊ะข้างๆ คงลุ้นไปกับฉันด้วย) อาจารย์ก็พูดใส่ฉันว่า “หากลำบาก...ก็ไม่ต้องก็ได้” ฉันยิ้ม..แต่แอบน้ำตาซึม (อาจารย์ผู้ชาย...ดูเงียบๆ แต่ว่าฉันซะแรงเลย)

ครั้งที่ถูกทดสอบ เจ้าของร้านหนังสือ... “น้องค่ะ ทางร้านมีนโยบายให้เปิดหน้าตอนเข้าร้าน เพราะพี่ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติพี่........พี่ก็ศึกษาเรื่องปิดหน้าน่ะ ที่นี่ประเทศไทย...ไม่จำเป็น......ยาววววว เป็นชุด.......และอีกอย่างพี่ไม่รู้ว่าน้องเป็นคนดีหรือไม่ เจตนาน้องอย่างไร(ประมาณว่ากลัว!!!)” ทำเอาฉันเกือบหงายหลัง ไม่มีช่องโหว่ให้ฉันได้พูดเลย เมื่อเธอพูดเสร็จ...ฉันถามกลับไปว่า “มีผู้ชายอยู่มั้ยค่ะ หากไม่มี...หนูจะได้เปิดหน้า...(และฉันก็อธิบายอย่างคร่าวๆ)หนูเข้าใจค่ะ ด้วยเหตุการณ์สามจังหวัด..(ฉันก็ร่ายยาวใส่เธอ แต่คงสู้เธอไม่ได้)” ขณะที่คุยกันอยู่...เสียงมอไซต์จอดหน้าร้าน โดยที่ฉันหันหลังให้ เธอบอกกับฉันว่า... “น้อง...สามีพี่มา” ฉันจึงยิ้มตอบเธอ...และปิดหน้าตามเดิม ร้องไห้ใหญ่บนรถมอไซต์...ปลายทางสู่บางปู (ผู้หญิงอายุราวแม่...แสนจะคุยรู้เรื่อง)

ครั้งที่ถูกทดสอบ ทหาร(ทะฮัง...ชอบใจเวลาเรียกสำเนียงมลายู)หน้าตรอกช้าง เช้าตรู่ของวันนี้แหระ...มือสองข้างถือของพะรุงพะรัง และมีปิ่นโตมื้อเช้าจากบ้านติดมาด้วย ทหารสองคนเดินเรียกฉัน... “ขอดูของในกระเป๋าหน่อย...” ฉันรีบโวย “ในกระเป๋ามีแต่เสื้อผ้า.....” ยังไม่หยุดแค่นั้น เขามองดูตรงปิ่นโตสีชมพูของฉัน และหยิบปิ่นโตไป ฉันโวยอีกรอบ “...มีข้าวอยู่ในนั้น....” ทหารคนนั้นก้มลงดมปิ่นโต โหหหห...แรง!!! ใครจะใส่ระเบิดในปิ่นโตเนี่ย!!! โมโหๆๆๆๆ หยิบปิ่นโตคืน ไม่ยิ้มตอบ ไม่อะไรแล้ว...ทหารขี้แมว(ฉันแอบด่าอยู่ในใจ) ไม่รู้สึกอะไรนอกจาก...เซ็ง!!!(ทหาร3คน เฝ้าตรงตรอกช้าง... ตรวจด้วยการดมปิ่นโต)

ครั้งที่ถูกทดสอบ มามากมายหลากหลาย...สอนให้ฉันอดทนขึ้นเยอะ...(ถึงแม้จะหงุดหงิดเอามากกับทหารดมปิ่นโตคนนั้น)...

อยู่สามจังหวัด...ด้วยสภาพการแต่งกายเช่นนี้แล ทำให้คนรอบข้างรักและห่วงใย(เรา) หลายครั้งหลายคราทำให้ตื้นตันใจ...หลายครั้งหลายครายังคงตื้นตันใจ...จริงๆ


อื้ม ด้วยความตื้นตัน และจงยึดประโยคนึงที่ว่า "จงอย่ากลัวที่จะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับมนุษย์ หากจะทำให้เราใกล้ชิดกับผู้สร้าง"....วัสลามมุอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

18 มิถุนายน, 2552

คุยมือถือ10 นาทีมีโอกาสสมองผิดปกติ

อ้สลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ...ท่านผู้ที่ใช้มือถือเป็นชีวิตจิตใจ


ยุคนี้จะหันไปทางไหนก็จะเห็แต่ผู้คนแบกโทรศัพท์มือถือไปมา คิดๆ ไป มือถือก็อาจจะกลายเป็นปัจจัยที่ห้าสำหรับมนุษย์บางคนไปแล้วด้วยซ้ำ
เคยนับดูบ้างมั้ยค่ะว่า ทุกๆ วันเราคุยโทรศัพท์กี่ครั้ง กี่ชั่วโมง และกับกี่คน และท่านเคยรู้บ้างมั้ยว่าทุกครั้งที่ท่านหยิบมือถือขึ้นมาแนบหู สมองของท่านจะถูกทำลายไปมากแค่ไหนแล้ว นั่นแน..ท่านคงไม่เชื่อละซิว่า มันจะเลวร้ายขนาดไหน งั้นดิฉันใคร่ขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยน่ะค่ะ

"นักวิทยาศาสตร์อิสราเอลชี้ การคุยโทรศัพท์มือถือต่อเนื่องนานเพียง 10 นาทีก็เพียงพอต่อการก่อตัวของเซลล์เนื้องอกในสมอง ย้ำว่าคลื่นความถื่ในโทรศัพท์มือถือล้วนมีผลรบกวนกระบวนการแบ่งเซลล์สมองไม่ว่าจะเป็นคลื่นความถี่สูงหรือต่ำ

โดยกระบวนการแบ่งเซลล์สมองที่ผิดปกตินี้เองที่จะนำไปสู่การเกิดก้อนเนื้อร้ายในอนาคต ผลการศึกษาชิ้นนี้เป็นของกลุ่มนักวิจัยในสถาบันวิทยาศาสตร์ไวส์แมนน์ (Weizmann Institute of Science) ของอิสราเอล โดยแม้ทีมวิจัยจะไม่ได้แถลงว่าคลื่นสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีอันตรายอย่างชัดเจน แต่การศึกษาพบว่ามีโอกาสเป็นไปได้

สวนทางกับผลวิจัยของหลายสถาบันที่ยืนยันว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือไม่มีผลเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเกิดก้อนเนื้องอกหรือมะเร็งในสมองแต่อย่างใด สถาบันเหล่านี้ระบุว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากปริมาณคลื่นความถี่ที่โทรศัพท์มือถือส่งออกมานั้นอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งไม่เข้มข้นพอจะทำให้เกิดการผิดปกติในสมอง

แต่การศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอลพบว่าคลื่นความถี่เพียงน้อยนิดก็สามารถเกิดความเสี่ยงได้ โดยทำการทดลองนำเซลล์สมองของมนุษย์และหนูมาวิจัยร่วมกับคลื่นรังสีระดับ 875 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งเป็นความถี่ย่านเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือหลายๆรุ่น

จากการทดลองใช้คลื่นความถี่ระดับอ่อนกว่าคลื่นความถี่ในโทรศัพท์มือถือรุ่นทั่วไป คลื่นเหล่านี้เริ่มมีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นสัญญาณเคมีในเซลล์สมองโดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ทีมวิจัยระบุว่าสัญญาณเคมีที่ตรวจจับได้ส่งผลโดยตรงต่อการแบ่งตัวของเซลล์สมอง "

เป็นงัยค่ะ คิดยังงัยบ้างจากบทความข้างต้น สำหรับดิฉันแล้ว มันทำให้ดิฉันเกิดความรู้สึกอยากจะกลับไปหยอดจดหมายลงในตู้ไปรษณีย์ใหม่แล้วละค่ะ แต่นั่นก็เป็นความคิดชั่ววูป คิดไปคิดมาโทรศัพย์ก็ยังจำเป็นกับเราอยู่ดี ด้วยเหตุผลที่ว่าสะดวกและรวดเร็ว
แต่ทางที่ดี การเลี่ยงในการคุยเรื่องไร้สาระผ่านมือถือ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านห่างจากผลกระทบได้ดีเลยที่เดียวเชียว โดยเฉพาะประเภทพวกที่ว่าใช่บุฟเฟ่ต์ คุยกันทั้งวันทั้งคืนเนี๊ย อันตรายน่ะค่ะ ท่านอาจจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีสมองผิดปกติก็เป็นได้น่ะค่ะ!!

วัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

28 พฤษภาคม, 2552

ประกาศเว็บมุสลิมยอดเยี่ยมแขนงต่างๆ

SLM-alaikumwarohmatulloh...นักดาอีย์ ดาอียะห์ แห่งโลกไซเบอร์ทุกท่าน

ท่านทราบมั้ยว่าเว็ปมุสลิมที่ท่านเข้าชมอยู่ทุกๆ วันนั้น วันนี้กลายเป็นเว็ปมุสลิมยอดเยี่ยมไปแล้ว
เอะ..ว่าแต่ว่า เว็ปอะไรบ้างหล่ะ ที่จะเป็นเว็ปยอดเยี่ยมในสายตาของ ยมท.
อื้ม..ลืมบอกไปว่าการประกาศเว็บไซต์มุสลิมยอดเยี่ยมครั้งนี้ จัดรวบรวมโดยคณะทำงานของสมาคม ยมท. ในสาขาการทำงานดะวะห์กับมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งมีดังรายละเอียดดังนี้น่ะค่ะ

1. เว็บไซต์ยอดนิยมหรือเว็บศูนย์รวมยอดเยี่ยม
ซึ่งจะเป็นเว็บแรกที่ทุกๆคนคิดถึงคือ
www.muslimthai.com ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวนี้มีความเก่าแก่และยาวนานที่สุดของมุสลิม นอกจากนั้น จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ศาสนิกอื่นก็จะรู้จักเว็บไซต์มุสลิมไทยมาก สำหรับเว็บมุสลิมแล้วเว็บนี้จะมีผู้เข้าชมมากที่สุด และติดยังอันดับเว็บไซต์ยอดนิยมในระดับประเทศ


2. เว็บรางวัลอุดมการณ์ยอดเยี่ยม
เสนออุดมการณ์ทางความคิด คือ
http://www.fityah.com ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวนี้เป็นเว็บที่มีอุดมการณ์ มีหลักการคิดที่แตกต่างๆจากเว็บทั่วไป ดังจะเห็นจากข้อมูล บทความ ภายในเว็บไซต์ ที่มีเนื้อหาสาระ มีความเอกลักษณ์เฉพาะนั้นเอง


3. เว็บตอบปัญหายอดเยี่ยม
นั้นคือเว็บ
http://www.mureed.com ของอาจารย์มูริด ทิมะเสน มีหลักการในการทำเว็บไซต์ว่า ฟัตวาออนไลน์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าอาจารย์มูริดนั้น ได้เสียสละและอุทิศแรงกาย แรงใจในการจัดทำเว็บไซต์ การตอบปัญหาของท่านอาจารย์ผู้นี้ ในเว็บไซต์ ทำให้ท่านเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น มีการตอบปัญหาต่างๆอย่างมากมายนับเป็นเวลากว่า 4 ปี ปัญหามีมากกว่า 1,000 ปัญหา ทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นเว็บไซต์ที่ ควรนำมาเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องความขยันและความรับผิดชอบของท่านอาจารย์มูริดนั้นเอง


4. เว็บไซต์ไฟล์เสียงยอดเยี่ยม
มีเสียงบรรยายเยอะมาก เป็นการเผยแพร่การบรรยายด้วยเสียงมากที่สุด เว็บนี้คือ
www.islaminthailand.org ของเชครีฏอ สมะดี ซึ่งไฟล์เสียงดังกล่าวนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับคนที่ไม่ชอบการอ่าน ทั้งนี้ก็ตรงกับพฤติกรรมของคนไทย ชอบฟังมากกว่าอ่าน เชครีฎอ สมะดี เป็นนักบรรยายในระดับแนวหน้าของประเทศ ดังนั้นนักบรรยายทั่วไป สมควรอย่างยิ่งที่จะนำแบบอย่างการทำงานดะวะห์ของเว็บไซต์นี้มาเป็นต้นแบบ ในการพัฒนาเว็บไซต์ผ่านเสียงด้วย


5. เว็บไซต์เสนอข่าวสารยอดเยี่ยม
ทำหน้าที่เรื่องข่าว นำเสนอเรื่องข่าว โดยเฉพาะและทำติดต่อมาหลายปี ผู้บริหารเว็บนี้มีความขยันมาก เพราะหากไม่มีความขยันในการหาข้อมูลข่าวสาร เพราะหากไม่เสียสละเวลาในการทำงานดะวะห์ ก็เป็นไปได้ว่าเว็บนี้คงปิดตัวไปนานแล้ว คือ
www.pinonlines.com


6. เว็บเสวนาวิชาการยอดเยี่ยม
นั้นคือ
www.iqraforum.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีการเสวนาแบบมีมารยาทและเป็นวิชาการ มีการแบ่งหมวดการเสวนาได้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเว็บดังกล่าวนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ ชมรมอิกเราะห์เพื่อวิชาการอิสลาม


7. เว็บเว็บพิทักษ์สัจธรรมยอดเยี่ยม
คือ
www.sunnahcyber.com เป็นเว็บตอบโต้ชีอะห์ โดยการตอบโต้จะใช้หลักการและเหตุผล ไม่ใช่คำพูดที่รุนแรง ในการตอบโต้ ความเชื่อแปลกปลอมที่กำลังแทรกซึมเข้าสู่สังคมมุสลิมของเรา

ค่ะ..ตอนนี้อินเตอร์ก็เป็นสื่อสำคัญที่มีอิธิพลมากในสังคมปัจจุบันและอนาคต หากใครมีความสามารถทางงานดะอฺวะฮฺแล้วมาประยุกต์ใช้กับอินเตอร์เน็ต ก็จะเป็นการดีมาก
แต่หากท่านใดที่ใช้อินเตอร์เน็ต แต่ไม่สามารถหั้ยอะไรกับสังคมอิสลามเลยก็ถือว่า คุณได้เสียโอกาศเป็นอย่างมาก...เป็นเช่นนี้แล้ว คุณจะยอมได้หรือ มันคงจะดูน่าตลกมากน่ะค่ะ...วัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

20 พฤษภาคม, 2552

ก่อนออกจากบ้าน

อัสสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮิวาบารอก่าตุฮฺ...บ่าวที่รักของอัลลอฮฺทุกคน


.......วันนี้ไปอ่านเจอบทความเรื่องนึง มาชาอัลลอฮฺ..เนื้อหาดีมาก เลยก๊อปฟอวอร์ดเมลจนกลายเป็นเมลฟอวอร์ด ซึ่งตรงตามสโลแกนของเว็ปนี้เลย เลยก๊อปใส่หั้ยอ่านกันเลย(มั่วอะไรอยู่นี่)
.......เอะ..รู้สึกว่าวันนี้ เริ่มต้นก็รู้สึกสับสนวกวนบอกไม่ถูก งั้นไม่นอกเรื่องหล่ะไปอ่านบทความเลยดีกว่า...เฮ่อ

"ทุกเช้า ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืม คิดถึงสิ่งที่ต้องใช้ ในชีวิตประจำวันเหล่านี้ด้วยนะ"


๑. เครื่องประดับที่สวยที่สุดบนเรือนร่าง คือ
... อัล ฮิญาบ ...
๒. งานที่ทำแล้วพอใจที่สุด คือ ... การช่วยเหลือผู้อื่น ...

๓. ความสุขที่สุด คือ ... การให้ด้วยความบริสุทธิใจ โดยไม่ไหวังผลตอบแทน ...
๔. อาวุธร้ายแรง ที่ต้องระวัง และเก็บรักษาให้ดีที่สุด คือ ... คำพูดที่ทำร้ายผู้อื่น ...
๕. พลังยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จ คือ ... ความรักและความน้อบน้อม ...
๖. ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ... การทำร้ายตัวเอง ...
๗. ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ที่จะต้องเอาชนะให้ได้ คือ ... ความกลัวและนัฟซูตัวเอง ...

๘. ยานอนหลับที่ให้ผลดีที่สุด คือ ...ความสงบภายในใจที่เต็มไปด้วย อัล-กรุอาน ...
และสุดท้ายการให้ที่ง่ายที่สุด คือ ... การยิ้ม (ซอดาเกาะฮฺ) ...

ค่ะ..อย่างที่บอก เนื้อหาช่างดีมากมายเกินจะบรรยาย
สุดท้าย...ไม่มีอะไรค่ะ
วัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

02 พฤษภาคม, 2552

ริงโทนที่ใช้อยู่

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลอฮฺ
.....อัลฮัมดูลิลาฮฺ..ทุกอย่างก้อผ่านพ้นไปด้วยดี สำหรับภารกิจที่ข้าพเจ้าได้ไปทำมา ถึงแม้ว่าอาจจะมีอุปสรรคนิดๆ หน่อยๆ แต่นั่นก้อถือว่า คือรสชาติอีกแบบนึงของงาน..อืม
.....อื้ม..เข้าเรื่องเลยน่ะ..หลังจากที่นั่นคิด นอนคิด ว่าจะนำเสนอเรื่องอะไรดี..อัลฮัมดุลิลาฮฺ เปิดเมลเจอเมลล่าสุด ซึ่งในความสามารถทางความคิดของดิฉันที่อัลลอฮฺทรงประทานมาหั้ย ทำหั้ยดิฉันคิดว่าเรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องเล็กๆ ที่สำคัญมาก จะเป็นเรื่องอะไรนั้น ก้อเชิญรับฟัง เฮ้ย..รับอ่านกันเลยค่ะ
...เนื้อหาดังกล่าวเป็นการบอกถึงการฟัตวาหรือคำชี้ขาดของสภาผู้ตัดสินคำชี้ขาดในประเทศซาอุดิอาราเบีย เกี่ยวกับเรื่องเสียงเรียกเข้า(Ring Tone)โทรศัพท์มือถือ ที่มีเสียงอายะฮ์กุรอาน(QURAN AAYAT)
...สิ่งนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม(haraam)เนื่องจากเสียงอายะฮ์กุรอานนั้น ไม่สมบูรณ์(ไม่จบอายะฮ์)เมื่อเรารับโทรศัพท์ทำหั้ยความหมายของอายะฮ์ อัล-กุรอาน ได้เปลี่ยนแปลง เพราะอายะฮ์กุรอานนั้นๆ อ่านไม่จบ
...ดังนั้นท่านทั้งหลายก้อน่าจะทราบกันแล้วว่า..อัล-กุรอานQURAN เพื่อการชี้นำทาง(Hidayat)ไม่ใช่สำหรับเสียงเรียกเข้า (Ring Tone)โทรศัพท์มือถือ
งึม งึม สำหรับดิฉันเองก้อเคยพบเห็นเพื่อนที่ใช้ริงโทนเป็นอายาตอัลกรุอานเช่นเดียวกัน นั่นก้อแสดงหั้ยเห็นว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่กระจ่างในเรื่องนี้ ดังนั้นหากไม่เป็นการลำบากท่านผู้อ่านจนเกินไป โปรดส่งผ่านข้อความ(คำตัดสินชี้ขาด)นี้ให้พี่น้องมุสลิมท่านอื่นๆด้วย ..เพราะนั่นถือว่าอามานะห์อย่างหนึ่ง

جزاكم الله خيرا
ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีแด่ทุกท่าน
วัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

04 เมษายน, 2552

ข้าขอลาก่อน


อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ(ครั้งที่สอง ในวันเดียวกัน)

ค่ะ...วันนี้ก้ออัพเดตไปแล้วเรื่องนึง แต่ผู้อ่านจะว่าอะไรมั้ยหากจะบอกว่า เว็ปนี้อาจจะเอ้าต์เดตอีกประมาณหนึ่งเดือน

.....ดูจากรูป..หลายคนอาจจะเข้าใจแล้วน่ะค่ะ ว่ามันคืออะไร ค่ะ...ถูกต้อง มันคือ "ลา" ซึ่งรูปนี้ก็สื่อถึงอะไรหลายอย่าง ส่วนหนึ่งนั่นก้อคือ การลาของดิฉัน (แล้วเกี่ยวกันยังงัยเนี๊ย)
.....อันเนื่องมาจากดิฉันต้องไปทำภารกิจอันใหญ่หลวงเพื่อเยาวชนที่จะเติบโตมาเป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า ส่วนจะเป็นภาระกิจอะไร และมันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนนั้น ดิฉันคงจะไม่ขอเอ๋ยถึงละกันน่ะค่ะ
.....สรุปคือ...ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการชี้แจงว่าเวปนี้จะขาดผู้ดูแลอีกเดือนนึง
อินชาอัลลอฮฺ...เดือนหน้า(หากอัลลอฮฺทรงต่ออายุจนถึงวันนั้น) ดิฉันจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อความอยู่รอดของเว็ปนี้
.....ค่ะ...ก้อคงไม่ขอต่อความยาวสาวความยืด อ้อ..ฝากอะไรนิดนึงละกัน
ปิดเทอมนี้อยากหั้ยทุกท่านทำตัวหั้ยเป็นสาระ หาอะไรที่เป็นแก่นสารทำหั้ยมากที่สุดน่ะค่ะ อย่าปล่อยเวลาหั้ยผ่านไป โดยที่คุณไม่ทันจับอะไรทำอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลยน่ะค่ะ เสียดายเวลา ละก้ออย่าทำเป็น "ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ้น" ล่ะ รักษาอีหม่านของตัวเองหั้ยดีๆ อย่าลืมน่ะค่ะว่า เราต้องดูแลอีหม่านของคนอีกเยอะ.......โอ้วว ร่ายซ่ะยาวเลย งั้น แค่นี้ล่ะค่ะ
...วัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

10 นิสัยทำร้ายสมอง

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ ท่านผู้อ่านที่(ยัง)ติดตามผลงานเรามาโดยตลอด

.....อืม...มาอัฟด้วยน่ะค่ะ ช่วงนี้เว็ปไม่ค่อยอัพเดตเท่าไหร่ เป็นเพราะสาเหตุในหลายๆ ด้าน เป็นต้นว่า ติดสอบ ,ไม่มีเวลาเล่นแตะคอม เลยไม่ค่อยได้มาชะเง้อดูความเป็นอยู่ของเว็ปนี้เลย....แต่วันนี้ต่อมกระตุ้นความรับผิดชอบเริ่มทำงาน เลยแวะมาอัพเดตแต๊ดนึง วันนี้จะนำเสนอเรื่องอะไรดีเน้อ...อื้ม อ้อ นึกออกแล้ว เอาเรื่องนี้ดีกว่าน่ะ เป็นเมลที่เค้าฝากมาหั้ย...ได้สาระมาก


หลีกเลี่ยง 10 นิสัยทำร้ายสมอง

เรามาดูกันน่ะค่ะว่า อะไรบ้างที่เป็นพฤติกรรมทำร้ายสมอง (เพื่อความเป็นระเบียบ เรามาเริ่มที่ข้อหนึ่งเลยน่ะค่ะ)

1.ไม่ทานอาหารเช้า นอกจากทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำแล้ว ยังเป็นเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ

2. กินอาหารมากเกินไป จะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น

3.สูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้สมองฝ่อ และโรคอัลไซเมอร์

4. ทานของหวานมากเกินไป ของหวานจะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีน และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง

5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อย ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง

6. การอดนอน ถ้าอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้

7.นอนคลุมโปง การนอนแบบนี้จะเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น และลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมองไปในตัว

8.ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะกำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว

9.ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ

10.เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะการพูดเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง

ค่ะ...ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาข้างต้น ก้อล้วนเป็นพฤติกรรมที่เราอาจจะทำเป็นประจำ ดังนั้นหากเลิกได้ก้อเลิกน่ะค่ะ เพื่ออิสลามจะได้มีอุมมะฮฺที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและสมอง.............


วัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

24 กุมภาพันธ์, 2552

สัมนาเพื่อประชาชาติอิสลาม

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

วันนี้เพิ่งเปิดเมลอ่าน เจอเมลฉบับนึงที่ฝากประชาสัมพันธ์หั้ยหน่อย จึงน้อมรับด้วยความยินดี จะว่าไปก้อคิดๆ อยู่เหมือนกันว่าจะประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ยังงัยดี เพราะเห็นเค้าติดตามบอร์ดทั่วสถาบันเลย แต่อัลฮัมดูลิลาฮฺ...มีเพื่อนส่งเมลมาหั้ย (ที่ภูมิใจยิ่งกว่าคือ โปสเตอร์นี้ผู้เป็นเพื่อนเป็นคนทำเอง) รู้สึกภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้แบบบอกไม่ถูกเลย คิ คิ(เกี่ยวอะไรด้วยเนี๊ย)

และเพื่อความกระจ่างในตัวโปสเตอร์ ดิฉันจึงขอใคร่เน้นย้ำอีกครั้งน่ะค่ะ

ร่วมรับฟังสัมนาวิชาการทางอุศูลุดดีน
วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 8.30-16.00

หัวข้อเรื่อง
"เมื่อมุสลิมกำลังหลับไหล ประชาชาติอิสลามจะเป็นเช่นไร"
เสวนาโดย
อ.มัสลัน มาหะมะ - เชคริฎอ อะหมัด สมะดี - ดร.สุกรี หลังปูเต๊ะ

และในช่วงบ่ายพบการบรรยายพิเศษในหัวข้อ
"หน้าที่ ประชาชาติอิสลามในยุคปัจจุบัน"

โดยท่านอธิการบดีของเรา ดร.อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา
ณ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
*******************
วัสลามมูอาลัยกูม

19 กุมภาพันธ์, 2552

อาการอีหม่านอ่อน

อัสลามมูอาลัยกูม ท่านผู้อ่านที่ติดตามบล๊อกนี้ อย่างใจจดใจจ่อ

ไม่เข้ามาอัพเดตนานเลย เกือบจะกลายเป็นบล็อกร้างแล้วไม่ล่ะ...ฮือ ต้องยอมรับเลยว่าช่วงนี้ไม่มีเวลาเล่นคอมเลย เอาแต่เรียน เรียนและเรียน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมห้องอื่นเค้าว่างกัน แต่ห้องเรานี่เรียนทุกคาบ(บ่นนิดนึง) ซึ่งอันที่จริงแล้ว ก้อไม่ใช่ว่ายุ่งขนาดนั้น ก้อยังพอมีเวลาว่างอยู่บ้างแต่เวลาที่ว่างนั้นดันไปชนกับความขี้เกียจพอดี เวลาว่างมักจะขี้เกียจตลอด(งงๆ น่ะ ว่ามั้ย) สรุปว่าสาเหตุหลักที่ทำหั้ยไม่มีเวลามีอัพเดตเว็บก้อคือ “ความขี้เกียจ” นั่นเอง และจะมีครัยบ้างที่รู้ว่าความขี้เกียจเป็นอาการหนึ่งของอาการอีหม่านอ่อน ดิฉันเพิ่งได้รับเมลเกี่ยวกับอาการอีหม่นอ่อน ซึ่งยอมรับเลยว่า เคยมีอาการของอีหม่านอ่อนหลายข้อเลยทีเดียว...อัซตัฆฟิรุลลอฮฺ
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูอาการของโรคนี้เลยดีกว่าน่ะค่ะ(ไตเติ้ลยาวจัง)


อีการอีหม่านอ่อน
1. กระทำบาปและสิ่งต้องห้ามต่างๆ
2. หัวใจแข็งกระด้าง
3. ทำอิบาดะฮฺอย่างลวกๆ
4. เกียจคร้านในการฏออัต(การเชื่อฟังอัลลอฮฺและอีบาดะห์ต่างๆ)
5. คับแค้นใจ อารมณ์แปรปรวน
6. อายะฮฺอัลกรุอานไม่ส่งผลใดๆ ต่อเขา
7. อยู่ในสภาพเพิกเฉย ขณะรำลึกถึงอัลลอฮฺ
8. ไม่รู้สึกโกรธ เมื่อมีการละเมิดในสิ่งที่อัลลอฮฺห้าม
9. รักในชื่อเสียงและความโด่งดัง
10. ตระหนี่ถี่เหนียวพร้อมกับความโลภ
11. พูดแต่ไม่ทำ
12. มีความสูขบนความทุกข์ของพี่น้อง
13. พิจารณาการกระทำเพียงบาปหรือไม่บาปเท่านั้น
14. มองไม่เห็นค่าของความดีเล็กๆ น้อยๆ
15. ไม่สนใจในกิจการของมุสลิม
16. เกิดความแตกแยกระหว่างพี่น้อง
17. ขาดสำนึกในการทำงานอิสลาม
18. กลัวทุกข์ภัยและปัญหาต่างๆ ที่ต้องประสบ
19. ชอบทะเลาะถกเถียง
20. หมกมุ่นกับโลกนี้และสุขสันต์ไปกับมัน
21. ยึดเหตุผลมนุษย์เป็นส่วนใหญ่
22. ใช้ชีวิตอย่างสำราญ
อ้างอิงจาก
ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิห์ อัลมุนัจญิด
อบุล ลัยษฺ แปลและเรียบเรียง
----------------------------------------------------------------
เป็นงัยค่ะ..เข้าข่ายกี่ข้อ หวังว่าไม่เกินกว่า 10 ข้อน่ะค่ะ..อินชาอัลลอฮฺ
แต่ถ้าหากว่า เกินกว่า 10 ข้อเนี๊ย อันตรายน่ะค่ะ อย่าปล่อยทิ้งไว้ เดี๋ยวมันจะเรื้อรังแล้วจะรักษายาก ทางที่ดีรับประทานยาบำรุงบ่อยๆ เช่น วิตตามินQ= Quran ทานบ่อยๆ น่ะค่ะ..ด้วยความห่วงใย
วัสลามมูอาลัยกูม

01 กุมภาพันธ์, 2552

บอยคอตกาแฟ starbucks

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปราณีเสมอ

วันนี้เพิ่งได้รับอีเมลใหม่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบอยคอตสินค้า

ซึ่งสินค้าที่ว่าคือ กาแฟ Starbucks

"Starbucks หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของรัฐก่อการร้ายอิสราเอล
โดยอิสราเอลจะนำเงิน 12%จากกำไรที่ได้ ไปหั้ยยิวซื้ออาวุธใช้ในการก่อการร้ายและเข่นฆ่าพี่น้องในปาเลสไตล์ "
...แล้วแบบนี้ท่านยังจะจิบกาแฟบนท่ามกลางกองเลือดพี่น้องมุสลิมเช่นนี้อยู่อีกหรือ ?


วัสลามมูอาลัยกูม

แจ้งลบเว็ปดูหมิ่นอิสลาม

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ
...วันก่อนเข้าไปดูเว็ปเว็ปนึง บอกตามตรงเลยว่ารับไม่ได้ เพราะมันเป็นเว็ปที่สร้างขึ้นเพื่อใส่ร้ายและดูหมิ่นอิสลาม โดยมนุษย์คนนึงที่มีสมองแต่ในสมองเค้าเต็มไปด้วยสนิมเกาะเคอะ ทำให้เค้าไม่สามารถมองเห็นความสวยงามและสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในอิสลาม เค้าได้แต่ต่อต้าน ดูถูกดูหมิ่นศาสนาอิสลาม ก็ไม่รู้น่ะค่ะว่าอะไรทำให้เค้าเกลียดอิสลามถึงขนาดนี้ แรกๆที่ดิฉันเข้าไปอ่านสิ่งที่เค้าได้เขียนดูหมิ่นอิสลามด้วยถ้อยคำในแง่ลบต่างๆ นาๆ มันทำหั้ยดิฉันมีอาการควันออกหูและเลือดขึ้นหน้า ฟังดูโหดไปใช่มั้ยแต่อย่าเพิ่งตกใจไปดิฉันคงไม่เอามีดไปแทงเค้าหรอกค่ะ แต่หากจะปล่อยหั้ยเรื่องนี้ผ่านเลยไปมันก้อดูยังงัยๆ อยู่น่ะค่ะ
อ้อ...ลืมไปสำหรับเว็ปที่ว่าก้อคือ http://islamfromhell.blogspot.com
หลายคนอาจจะเกิดคำถามในใจว่า "แล้วเราจะทำยังงัยกับเว็ปนี้ดีล่ะ" ซึ่งสิ่งนี้ดิฉันคิดว่าการแจ้งลบเว็ปนี้เป็นวิธีที่นุ่มนวลที่สุด ซึ่งดิฉันก้อเพิ่งได้รับลิ้งเพื่อแจ้งลบเว็ปผ่านทางอีเมลเมื่อไม่นานนี้เอง
นี่ค่ะ http://htcc.ict.police.go.th/webadvise เป็นลิ้งที่ใช้สำหรับแจ้งเว็ปที่ไม่เหมาะสม ซึ่งดิฉันก้อได้ไปแจ้งไว้แล้ว และหวังว่าจะมีท่านผู้อ่าน(ที่น่ารัก)อีกหลายคนทะยอยกันไปแจ้งลบเว็ปนี้ เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนคงจะไม่พลาดโอกาศนี้ อย่าลืมไปใช้สิทธิ์นี้น่ะค่ะ
ทิ้งท้าย...อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เมื่ออิสลามถูกดูหมิ่น...วัสลามมูอาลัยกูม

27 มกราคม, 2552

เปิดสนามแก่นักออกแบบโปสเตอร์

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺวาบารอก่าตุฮฺ


ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาอัพเดตเว็ปเลย ทำหั้ยเนื้อหาอาจจะดูจำเจ ไม่ค่อยกระพรืดเลย ก้อมาอัฟด้วยน่ะค่ะ..สำหรับวันนี้อัลฮัมดูลิลาฮฺ ที่สามารถเจียดเวลามาอัพเนื้อหาใหม่ๆ ซ่ะที
งั้น..ไม่ขอกล่าวอะไรมากแล้วน่ะค่ะ...เริ่มเลยดีกว่า
สำหรับวันนี้มีข่าวใหม่ๆ มานำเสนอ ไปอ่านเนื้อหาเลยน่ะ


"เพื่อเปิดสนามแก่นักออกแบบโปสเตอร์ผู้มีจิตวิญาณ
และอุดมการณ์ด้านมนุษยธรรม
เพื่อต่อต้านยิวไซออนิสต์ อาชญากรโลกอิสราเอล
และมีความรู้สึกห่วงใยต่อพี่น้องชาวปาเลสไตน์
ขอเชิญชวนพี่น้องนักออกแบบโปสเตอร์ทุกท่าน
ร่วมกันออกแบบโปสเตอส์ 2 ภาษา+ภาพประกอบ
ขนาด A3 หรือ A2 หรือ A1 หรือ B2
( ไทยและอังกฤษ / สำนวนสั้นๆ แต่สามารถแทนใจชาวปาเลสไตน์ได้ )
เพื่อเรียกร้องด้านมนุษธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์
เพื่อเสนอแก่
คณะกรรมการรณรงค์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์จัดพิมพ์เผยแพร่ต่อไป ทั้งนี้ ได้กำหนดกรอบ
ให้ท่านสามารถเลือกทำดังนี้
** ประณามอาชญากรโลกอิสราเอล
** ต่อต้านยิวไซออนิสต์
** เรียกร้องด้านมนุษยธรรม
** ห่วงใยเด็กกำพร้า หญิงม้าย คนแก่ และผู้เสียชีวิตในปาเลสไตน์
** นำกรณีปาเลสไตน์ขึ้นพิจารณาต่อศาลโลก
** ส่งเสริมบริจาคแก่ชาวปาเลสไตน์
** ความอำมหิตที่เกิดขึ้นแก่ชาวปาเลสไตน์
อื่นๆ ตามเหมาะสม
โดย ระบุข้อความเฉพาะในโปสเตอร์มุมใดมุมหนึ่งว่า
จัดพิมพ์เผยแพร่โดย
คณะกรรมการรณรงค์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์
THE COMMITTEE FOR HUMANITARIAN ASSISTANCE
FOR PALESTINIANS

ส่งผลงานมาด่วนที่
abu_haiyan@hotmail.com หรือ fauzi.wamy@gmail.com

ทุกผลงานมีความหมายต่อโลกอิสลาม
โดยเฉพาะพี่น้องปาเลสไตน์"





เน้น!!!!!..ทุกผลงานมีความหมายต่อโลกอิสลาม โดยเฉพาะพี่น้องปาเลสไตน์


หวังเหลือเกินว่าข่าวนี้เป็นประโยชน์ต่อท่านน่ะค่ะ ...วัสลามมูอาลัยกูม(ขอจบแบบดื้อๆๆ)


16 มกราคม, 2552

Important tips

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุลลอฮฺ (ตอบสลามด้วย วาญิบน่ะ)

วันนี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับสุขภาพมาฝากกันน่ะค่ะ ไปอ่านกันเลยดีกว่าเนอาะ*_*

Health Important tips

1. รับโทรศัพท์โดยหูซ้าย
2. อย่าดื่มกาแฟ 2 ครั้งต่อวัน (ถ้าไม่ดื่มเลยก็ยิ่งดี)
3. อย่าทานยาร่วมกับน้ำเย็น
4. อย่าทานอาหารมื้อใหญ่หลัง 6 โมงเย็น
5. ลดปริมาณอาหารมัน
6. ดื่มน้ำเยอะๆ ตอนเช้าและดื่มน้ำน้อยๆ ตอนกลางคืน
7. อยู่ห่างจากเครื่องชาร์ตแบตมือถือขณะชาร์ต
8. อย่าใช้เฮดโฟนและเอียร์โฟนนาน
9. การนอนหลับที่ดีที่สุดคือช่วงเวลา 4 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
10. อย่านอนทันทีหลังจากทานยา
11. เมื่อแบตเตอร์รี่ต่ำถึงขีดสุดท้าย อย่ารับโทรศัพท์เพราะรังสีแรงกว่าปกติถึง 1000 เท่า


รู้สึกว่า แต่ละข้อสำคัญหมดเลยน่ะค่ะ บางข้อเราอาจจะไม่รู้มาก่อน ก้ออัลฮัมดูลิลาฮฺวันนี้เราได้รู้แล้ว ก้อนำเอาไปใช้ด้วยน่ะค่ะ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะต่อสู้กับชาติหมาอำนาจอย่างอเมริกาและอิสราเอล...อินชาอัลลอฮฺ

06 มกราคม, 2552

สักครั้งกับการทำหน้าที่ "มือบน"

อัสลามมูอาลัยกูม..ท่านผู้ติดตามที่แสนจะน่ารัก

วันนี้ขอแหวกแนวประชาสัมพันธ์เนื้อหาที่ฝากมาทางกล่องรับข้อความน่ะค่ะ ซึ่งไม่ใช่รูปแบบที่เป็นอีเมลอย่างโสแกนของบล๊อกนี้ (แต่อยากช่วยประชาสัมพันธ์หั้ยง่ะ คงไม่ขัดใจอะไรมากมายน่ะค่ะ)
เป็นข่าวประชาสัมพันธ์หนังสือ "บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น" รายละเอียดอื่นๆ ดูใต้ภาพนี้เลยน่ะค่ะ

"มาแล้วครับ! หนังสือดีที่รอคอย เขียนโดย ฟูอ๊าด ไวยวรรณจิตร หนังสือ "บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น" (พ็อคเก็ตบุค) รวมเล่มๆนี้ เนื้อหาข้างในการันตีด้วย ผลงานผู้เข้าชิงรางวัล New Wave Writer สองปีซ้อน และเข้าชิงปีล่าสุดถึง ๖ เรื่อง จนได้รับรางวัลมา ผลงานทั้งหมดในเล่มมีทั้งบทความ เรื่องสั้น บันทึก... ที่เคยได้รับรางวัลและเข้าชิงงานเขียนต่างๆ หากท่านมองหาหนังสือที่จะให้ทุกคนได้อ่านเป็นของขวัญทุกเพศทุกวัย หนังสือเล่มนี้จะถ่ายทอดวรรกรรมการทำความเข้าใจอิสลาม และความเป็นไปของมุสลิมผ่านบทความ เรื่องสั้น และบันทึก ได้อย่างลงตัว พบเจอโปรโมชั่นดีๆแบบนี้ได้ที่ บูธ "บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น" นะครับ ดังนี้

หนังสือ “บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น” ราคาเล่มละ 70 บาท

หนังสือ + เข็มกลัด + โปสการ์ด(ปกหนังสือ) ชุดละ 90 บาท

หนังสือ + เข็มกลัด(น่ารักๆ) ชุดละ 85 บาท

หนังสือ + โปสการ์ด(ปกหนังสือ) ชุดละ 73 บาท หมายเหตุ*** แถม ฟรี ที่คั่นหนังสือ “บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น”

เข็มกลัด + โปสการ์ด(ปกหนังสือ) ชุดละ 23 บาท

เข็มกลัด (น่ารักๆ) อันละ 20 บาท

โปสการ์ด (ปกหนังสือ) ใบละ 5 บาท

อย่าลืม! นะครัับ โปรโมชั่นพิเศษนี้เฉพาะในงานเท่านั้น ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้ที่ V_onetime@hotmail.com มีจำนวนจำกัด รีบหน่อยนะครับ

ป.ล. เปิดตัวในงาน "มหกรรมหนังสือมุสลิมครั้งที่ ๓" ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย (รามซอย ๒) กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ ๙-๑๑ มกราคม ๒๕๕๒ ครับ ทีมงานไม่ขอ “แข่งขัน” แต่ขอ “แบ่งปัน” เรื่องราวดีๆ สิ่งดีๆ เพื่อชีวีในโลกหน้านิจนิรันดร์ ร่วมบริจาคตามจิตกุศลสมทบทุนการศึกษาเยาวชนในพื้นที่ฯ BY...ทีมงานเสียงเล็กๆ "

ดูๆ ไปก็น่าสนใจน่ะค่ะ สั่งบ้างดีกว่า หนังสือดี ราคาก้อไม่แพง..ชอบ!!

สุดท้ายก็ไม่ขออธิบายอะไรแล้วน่ะค่ะ เพราะดูจากรายละเอียดก็บอกไปหมดแล้วเนอาะ...ท้ายสุด ก้อวัสลามมูอาลัยกูม

04 มกราคม, 2552

เกิดอะไรขึ้นที่ปาเลสไตน์

อัสลามมูอาลัยกูมท่านผู้อ่านทุกท่าน

ช่วงนี้ข่าวคราวพี่น้องเราในฆ๊อซซะห์กำลังเดือดร้อน จากการกระทำจากสันดานเลวของอิสราเอล โดยการยิงถล่มพี่น้องเรา หวังว่าทุกคนคงจะได้ยินและรับทราบอย่างถ้วนหน้าแล้ว เพราะจากที่ดิฉันได้รับรู้ข่าวคราวผ่านทางอีเมลนั้นทำหั้ยดิฉันได้รู้ว่าเพื่อนๆ หลายคนหั้ยความสนใจและช่วยกันเผยแพร่ เรื่องนี้อย่างแพร่หลาย...อัลฮัมดูลิลาฮฺ แต่หากจะหั้ยดิฉันนำเสนอ ทุกอีเมลนั้น คงจะไม่สะดวก ดังนั้น ดิฉันจึง รวบรวมทุกอีเมล แล้วทำเป็นเรื่องเดียว คิดว่าน่าจะเวิร์กกว่าค่ะ....เริ่มต้นจากมุสลีม๊ะท่านนึง ส่งมาเตือนสติในรูปแบบความรู้สึก ซึ่งดิฉันรู้สึกชื่นชมในความรู้สึกของเค้ามาก

"อัสลามูอาลัยกุมเพื่อนๆ วันที่สามแล้วที่พวกมันยิงถล่ม ณ ฉนวนกาซ่า ยอดผู้เสียชีวิตทีเดียวพุ่งสามร้อยกว่าคน มันทำอย่างกับว่าชีวิตเราเป็นผักเป็นปลา แล้วพี่น้องของเราที่อยู่ ณ.ที่นี่ล่ะทำอะไรกันอยู่แค่อ่านเมลล์ที่เพื่อนส่งข่าวมาบอกเสร็จแล้วก็ลบทิ้งใช่มั้ย ถ้าซักวันนึงเราได้ไปใช้ชีวิต ณ. ที่ตรงนั้นเราจะรู้สึกอย่างไร ไม่ต้องตอบให้คนอื่นฟังหรอก แค่ตอบให้หัวใจได้ยินก็พอแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้มาก ขอเพียงแค่เสียเวลาซักนิดเพื่อดุอาร์ให้พี่น้องเรา แค่นี้ทำได้มั้ยเพื่อน เพราะอิสลามคือพี่น้อง อวัยวะส่วนใดเจ็บส่วนอื่นก็ทำงานบกพร่องทันที วัสลาม"
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเพื่อนๆ ส่งดุอาร์มาหั้ยอีก...อัลฮัมดูลลิลาฮฺ จริงๆ เลยค่ะ

"ณ วันนี้ พี่น้องเราถูกทำร้าย เราอยู่ที่ไหน เรารับรู้เหตุการณเหล่านี้บางมั้ย เราได้ช่วยอะไรไปบ้าง...? คำดุอาของเราในวันนี้ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการขอบางมั้ย ถ้ายัง เรามาร่วมกันดุอาให้กับพี่น้องนะครับ


اللَّهُمَّ انْصُرِ المُسْتَضْعَفِيْنَ مِنَ المُؤْمِنِيْنَ فِيْ كُلِّ مَكَان
اللَّهُمَّ إِنُّهُمْ ضُعَفَاءُ فَقَوِّهِمْ
وَجِيَاعٌ فَأَطْعِمْهُمْ
وَعِطَاشٌ فَاسْقِهِمْ
وَعُرَاةٌ فَاكْسُهُمْ
وَمُسْتَضْعَفُوْنَ فَانْصُرْهُمْ


โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือบรรดาผู้ศรัทธาที่อ่อนแอในทุกสถานที่

โอัอัลลอฮฺ ! พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้อ่อนแอ ขอพระองค์ทรงเสริมกำลังให้พวกเขาเข้มแข็ง

และพวกเขา กำลังหิวโหย ขอพระองค์ทรงประทานปัจจัยให้พวกเขาอิ่มเอิบ

และพวกเขากำลังกระหายน้ำ ขอพระองค์ทรงประทานน้ำให้พวกเขาดื่ม

และพวกเขากำลังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม ขอพระองค์ทรงประทานเครื่องนุ่งห่มให้แก่พวกเขา

และพวกเขากำลังอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย ขอพระองค์ทรง ประทาน ความช่วยเหลือแก่พวกเขาด้วยเถิด


اللهم آمين
لاتنسوا إخواننا المسلمين فى غزة من دعائكم
อย่าลืมขอดุอาให้กับพี่น้องเราที่อยู่ใน ฆ็อซซะฮฺ ด้วยนะครับ

ภาพเหตุการณ์บางส่วน จากเวบ http://www.paltimes.net/arabic/?action=detile&detileid=23971

ค่ะ...อย่างที่ทุกท่านได้อ่านกัน สำหรับดิฉันแล้ว อยาก อยากเหลือเกินที่จะขอหั้ยทุกท่านช่วยเหลือพี่น้องของพวกเราที่ถูกรังแกอยู่ทุกวันนี้ทั้งทั่วทุกมุมโลก ดิฉันคงไม่หวังหั้ยท่านไปจับอาวุธสู้กับศัตรูของอิสลามหรอก และไม่ได้หวังด้วยว่าจะหั้ยท่านเดินประท้วงกร่นด่าศัตรูอิสลาม แต่ขอหั้ยทุกท่านช่วยกันดุอาห์ ดุอาห์เพื่อพี่น้องเรา คิดว่า คงไม่ทำหั้ยคุณเสียเวลามากมายหรอกน่ะค่ะ
สุดท้าย ท้ายสุด (อันที่จิงอยากพูดต่อ แต่รู้สึกว่ามันจะจบยากเหลือเกิน เลยด่วนจบซ่ะก่อน) งึม งึม ขอบคุณเนื้อหาดีดีชุมนุมนักศึกษาอุศูลุดดีน มุสลีมีน ปี 51มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา และพี่น้องอีกหลายท่านที่สละเวลาส่งเมลหั้ยดิฉันเพื่อเผยแพร่ในบล๊อกนี้...ยะซากุมุลลอฮูคอยรอน
เจอกันคราวหน้า หากไม่ตายซ่ะก่อน...อินชาอัลลอฮฺ วัสลามมูอาลัยกูม.

01 มกราคม, 2552

พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว

อัสลามมูอาลัยกูม
เคยมั้ยที่รู้สึกว่า ตัวเองสมองฝ่อ ถ้าเคย คุณพอจะทราบสาเหตุของมันมั้ย..ไม่เคยละซิ งั้นดีเลย เพราะวันนี้ดิฉันมีเนื้อหาจากอีเมลที่เพื่อนๆ ส่งมา เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับ 10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว ไปอ่านกันเลยน่ะค่ะ
1.ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี่จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2.กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3.การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคสมองฝ่อและโรคอัลไซเมอร์
4.ทานของหวานมากเกินไป จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง
5.มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง
6.การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน การอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้
7.นอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8.ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9.ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ
10.เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง

ค่ะ..รู้สึกรึป่าวค่ะ ว่าตัวเองมีพฤติกรรมดังกล่าว เกือบครบทุกข้อเลย รู้อย่างนี้แล้วก็หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมาจะดีกว่า เพื่อจะได้มีสมองที่ดีน่ะค่ะ
ขอบคุณเนื้อหาดีๆ จากเพื่อนดีๆ
วัสลามมูอาลัยกูม

สวัดดี อิสลาม

**อัสลามมูอาลัยกูม...ท่านผู้อ่านที่น่ารัก**
วันนี้มีข่าวประชาสัมพันธ์น่ะค่ะ เพิ่งได้รับวันนี้ (สดสด ร้อนร้อน เฮ่อ)


เป็นข่าวประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้องใช้เนื้อหา ไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทน คุ คุ ใช้แต่รูปล้วนๆ
แต่คิดว่า จากรูปอาจจะไม่ค่อยชัดเจนซักเท่าไหร่
งั้น ดิฉันขออธิบายเองเลยละกันน่ะค่ะ --เป็นงานนิทรรศการในหัวข้อ "อะไรคือ อิสลาม" ในงานก้อมีกิจการมากมายเลยน่ะค่ะ(ดูจากรูป) โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2552 ณ. ห้องLA510 คณะศิลปะศาสตร์ มอ.หาดใหญ่ ค่ะ อ้อ.รายละเอียดเพิ่มเติม โทร 083-6596464.
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก้ออ่านจากรูปเลยน่ะค่ะ หากไม่ชัด ก๊อปแล้วเอาไปขยายเองน่ะค่ะ
วัสลามมูอาลัยกูม..ท่านผูอ่านที่น่ารักเช่นเคย